วันนี้ 21 มิ.ย.2566 นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ย้ำว่า ไม่อยากเห็นสามเณรบวชใหม่ เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งคำนี้เป็นคำเปรียบเปรย ส.ส.หน้าใหม่อย่างก้าวไกล ที่กำลังจะได้เป็นประธานสภา โดยนายอดิศร บอกว่า เขารับไม่ได้ และ เจ็บปวดที่ต้องมาพูดเรื่องนี้ซ้ำอีก คนของเพื่อไทย เป็น ประธานสภาฯได้ทุกคนเพราะมีประสบการณ์สูงคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ที่สำคัญ นายอดิศร ท้าว่าถ้าเคลียร์กันไม่ลงตัว ก็เปิดโหวตในสภาไปเลย ดูว่า ใครจะได้รับเสียงเห็นชอบจากเพื่อนสมาชิก 500 คน มากกว่ากัน
สภาฯ เตรียมพร้อม รับรายงานตัว ส.ส.ใหม่ ชุดที่ 26
เช็กที่นี่! รายชื่อว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวม 141 คน
ซึ่งหลังพูดประโยคนี้จบ ก็มีเสียงปรบมือแทรกเข้ามา จากส.ส.เพื่อไทย
นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า แกนนำพรรคเพื่อไทย ไม่ควรให้ความสนใจว่า ถ้าไม่ได้ร่วมรัฐบาลกันพรรคก้าวไกลจะตั้งรัฐบาลไม่ได้ พร้อมถามผู้บริหารพรรคว่า สรุปเราเป็นพรรคเพื่อไทยหรือเป็นพรรคก้าวไกลกันแน่
นายอดิศร พูดอีกว่า ตัวเขาเอง ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะงดออกเสียงหรือไม่ หากท้ายที่สุดพรรคร่วมรัฐบาลเสนอชื่อคนของพรรคก้าวไกลเป็นประธานสภาฯนอกจากนี้ยังบอกว่า ขอโทษ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคด้วย ที่ทำให้ลำบากใจ และ ทำให้เข้าใจว่า ทะเลาะกัน แต่ย้ำว่า ทำไปเพราะเจตนาดีกับพรรคเพื่อไทย และก็เหมือนเดิม เสียงปรบมือในห้องประชุมดัง หลังนายอดิศร บอกว่า “พรรคเพื่อไทยไม่ใช่สาขาของพรรคก้าวไกล”
ตลอดการลุกขึ้นพูดของนายอดิศร ประมาณ 7-8 นาที ย้ำประเด็นหลักประเด็นเดียว คือ พรรคเพื่อไทยไม่ควรยอมให้พรรกค้าวไกลได้ตำแหน่งประธานสภาฯไป เพราะ ทั้ง 2 พรรคมีศักดิ์ศรีเท่ากัน ไม่มีใครได้เสียงเกิน 250 เสียง ดังนั้น เมื่อก้าวไกลเป็นฝ่ายบริหาร เพื่อไทยก็ควรได้ตำแหน่งประธานสภา
ทั้งนี้นอกจากนายอดิศร ลุกขึ้นแสดงความเห็นแล้ว ตามรายงานข่าวพบว่ามีอีกเป็น 10 คนลุกขึ้นพูด เนื้อหาหลัก คือ เรื่องประธานสภาฯเช่นเดียวกัน
ดังนั้น ทั้งสองพรรคใหญ่ต้องรู้ว่าตำแหน่งประธานสภาฯ มีความสำคัญ ไม่ใช่เพียงแค่ประมุขนิติบัญญัติ แต่สถานการณ์การเมืองเช่นนี้ขอให้พรรคที่หนึ่ง และ พรรคที่สองไปคุยกันให้จบ เสียสละเพื่อส่วนร่วม ตกลงกันให้ได้