หลังจากที่เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) เกิดเหตุโดรนโจมตีกรุงมอสโกอีกครั้ง ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ระบุว่าการโจมตีหลายครั้งที่เกิดขึ้นภายในอาณาเขตของรัสเซียเองเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และเป็นกระบวนการที่เป็นธรรมของการทำสงครามระหว่างสองประเทศ โดยประธานาธิบดี เซเลนสกี ระบุว่าสงครามกำลังย้อนกลับไปหารัสเซียอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งสถานที่ในเชิงสัญลักษณ์และฐานที่มั่นทางทหาร
แม้ว่าคำพูดของเซเลนสกีจะยังไม่ใช่การยอมรับโดยตรงว่ายูเครนอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีรัสเซียในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่การออกมาแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ถูกมองว่าป็นการสื่อสารโดยตรงกับชาวรัสเซียที่ส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าการส่งกำลังทหารบุกยูเครนเป็นสิ่งที่ถูกต้องและชอบธรรมแล้ว ซึ่งอาจสร้างปัญหาให้กับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ที่พยายามสร้างเหตุผลในการทำสงครามและขยายการสู้รบออกไป
รัสเซีย สกัดโดรนยูเครนตก 3 ลำ กลางกรุงมอสโก
โปแลนด์กังวลหนัก ทหารแวกเนอร์แทรกซึมชายแดนก่อเหตุร้ายในประเทศ
คำพูดของเซเลนสกีเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า โดรนของยูเครน 3 ลำถูกยิงตกในช่วงเช้าวันอาทิตย์ โดย 2 ลำตกที่อาคารสำนักงานในกรุงมอสโก แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ท่าอากาศยานวนูโคโว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองก็ต้องหยุดทำการชั่วคราวด้วย
สำหรับ กรุงมอสโกอยู่ห่างจากชายแดนยูเครนราว 500 กม. และแทบไม่ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีเลยนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มโจมตียูเครนปีที่แล้ว แต่ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กลับเกิดเหตุโจมตีด้วยโดรนตามเมืองต่างๆ ของรัสเซียหลายครั้ง รวมถึงในกรุงมอสโก ซึ่งรัสเซียกล่าวหายูเครนว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
ส่วนที่ยูเครน สำนักงานตำรวจเมืองซูมี ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือแของประเทศเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า กองทัพรัสเซียยิงขีปนาวุธลูกหนึ่งเข้าใส่พื้นที่เมืองแห่งนี้ และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คนและบาดเจ็บอีก 5 คน โดยสำนักงานตำรวจระบุว่า การโจมตีครั้งนี้พุ่งเป้าเข้าใส่พื้นที่ของสถานศึกษาแห่งหนึ่งคำพูดจาก เว็บสล็อตแท้
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้เป็นวันกองทัพเรือของรัสเซีย ซึ่งประธานาธิบดี ปูตินได้ประกอบพิธีตรวจพลสวนสนามของขบวนเรือรบและเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ในอ่าวฟินแลนด์และแม่น้ำเนวาของเมืองเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก โดยมีกำลังพลกองทัพเรือเข้าร่วมพิธีประมาณ 3,000 นาย
โดย ประธานาธิบดี ปูติน แถลงขอบคุณบุคลากรกองทัพเรือที่ปฎิบัติหน้าที่ของตัวเองได้อย่าวสำเร็จลุล่วง พร้อมเปิดเผยว่าภายในปีนี้จะมีเรือชั้นต่างๆเข้าประจำการเพิ่มขึ้นอีก30ลำ
ขณะที่นาย ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคง เตือนว่ารัสเซียอาจจำเป็นต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากปฏิบัติการของยูเครนในการยึดคืนพื้นที่ต่างๆจากรัสเซียประสบความสำเร็จ